ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของนางสาวสุธิดา คุณโตนด ค่ะ

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Research

สรุปวิจัย



ผลของการบันทึกประกอบประสบการณ์วิทยาศาสตร์ที่มีต่อความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ของเด็กปฐมวัย
ความมุ่งหมายของการวิจัย
                เพื่อศึกษาความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ของเด็กปฐมวัย  ที่ได้รับการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์ประกอบการบันทึกโดยรวมและรายด้าน 

ความสำคัญของการวิจัย
                การวิจัยครั้งนี้  ทำให้ทราบถึงรูปแบบการจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ของเด็กปฐมวัย และเพื่อเป็นแนวทางสำหรับครู  ผู้ปกครองตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาปฐมวัยได้เห็นความสำคัญ  และเข้าใจถึงการบันทึกของเด็ก  สามารถนำไปส่งเสริมให้แก่เด็กในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอื่นๆต่อไป

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
                เด็กปฐมวัย ชาย – หญิง อายุ 5 - 6 ปี  ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2547  โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย  อ.หัวหิน  จ. ประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งได้มาโดยการสุ่มจากจำนวน 5 ห้องเรียน มา 1 ห้องเรียน  แล้วทำการทดสอบความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น  คัดเลือกเด็กปฐมวัยที่มีคะแนนความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ 15 อันดับสุดท้ายเป็นกลุ่มตัวอย่าง

ตัวแปรที่ศึกษา
1.               ตัวแปรอิสระ   ได้แก่  การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์ประกอบการบันทึก
2.               ตัวแปรตาม      ได้แก่  ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์  จำแนกเป็น 4 ด้าน
1.               ด้านความสัมพันธ์ลักษณะของวัตถุ
2.               ด้านความสัมพันธ์ตำแหน่งของวัตถุ
3.               ด้านลักษณะของวัตถุที่เคลื่อนที่หรือเปลี่ยนทิศทางการมอง
4.               ด้านการต่อเข้า  การแยกออกจากกันของวัตถุ

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1.               แผนการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์ประกอบการบันทึก
2.               แบบทดสอบวัดความสามารถด้านมิติสัมพันธ์        จำนวน 4 ชุด
ชุดที่ 1  ด้านความสัมพันธ์ลักษณะของวัตถุ                     จำนวน 10 ข้อ
ชุดที่ 2  ด้านความสัมพันธ์ตำแหน่งของวัตถุ                    จำนวน 10 ข้อ
ชุดที่ 3  ด้านลักษณะของวัตถุที่เคลื่อนที่หรือเปลี่ยนทิศทางการมอง       จำนวน 10 ข้อ
ชุดที่ 4  ด้านการต่อเข้า  การแยกออกจากกันของวัตถุ               จำนวน 10 ข้อ

การดำเนินการทดลอง
1.               ผู้วิจัยสร้างความคุ้นเคยกับเด็กกลุ่มตัวอย่างก่อนดำเนินการทดลองเป็นเวลา 1 สัปดาห์
2.               ผู้วิจัยทำการทดลองก่อนการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบทดสอบวัดความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
3.               ผู้วิจัยดำเนินการทดลองด้วยตนเอง  โดยกลุ่มตัวอย่างจะได้รับการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์ประกอบการบันทึก  ใช้ระยะเวลาทดลอง 8 สัปดาห์  สัปดาห์ละ 3 วัน  วันละ 30 นาที  เป็นเวลา 24 วัน
4.               หลังเสร็จสิ้นการทดลองผู้วิจัยทำการทดสอบหลังการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบทดสอบวัดความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ฉบับเดียวกับแบบทดสอบที่ใช้ก่อนการทดลอง  แล้วตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด
5.               นำคะแนนที่ได้จากการทดสอบวัดความสามารถด้านมิติสัมพันธ์  มาทำการวิเคราะห์ข้อมูล


สรุปผลการวิจัย
                เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์ประกอบการบันทึกมีความสามารถด้านมิติสัมพันธ์สูงกว่าการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01  ทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน  ได้แก่   ด้านความสัมพันธ์ลักษณะของวัตถุ  ด้านความสัมพันธ์ตำแหน่งของวัตถุ  ด้านลักษณะของวัตถุที่เคลื่อนที่หรือเปลี่ยนทิศทางการมอง ด้านการต่อเข้า  การแยกออกจากกันของวัตถุ


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น